เรื่องย่อ
ภายหลังเหตุธรณีพิบัติภัยครั้งยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 (พ.ศ. 2547) ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์เอลนีโย่ ลานีนย่า ทุพภิกขภัย อุทกภัย แผ่นดินไหว นับครั้งไม่ถ้วนและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ในปี 2022 (พ.ศ. 2565) รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ "นายกรัฐมนตรีไตรภพ" (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) ได้ออกพระราชกำหนดฉุกเฉินจัดอันดับความรุนแรงของภัยพิบัติและวางแผนการเตือนภัย โดยจัดตั้ง "ศูนย์เตือนภัยภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย" ภายใต้การดูแลของ "ด๊อกเตอร์สยาม" (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งมีหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรงสามคน คือ "ภูเก็ต" (พิศาล ศรีมั่นคง) "ซินดี้" (สิรินดา เจนเซ่น) และ "พีพี" (นิชาภา ประกรณ์กิจวัฒนา) ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันด้วยอุดมการณ์รักธรรมชาติอันมุ่งมั่นทั้งสามคนทำงานกันอย่างสนิทสนมเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
นายกรัฐมนตรีไตรภพเชื่อถือและเชื่อมั่นการคาดการณ์ภัยพิบัติของด็อกเตอร์สยามอย่างมาก แต่ด้วยลักษณะของภัยธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามินั้นไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และที่ไหน ด้วยเหตุนี้ทำให้ด็อกเตอร์สยามคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวที่มีผลต่อชีวิตประชาชนผิดพลาด สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนทั่วประเทศเขาจึงถูกกดดันอย่างหนักจากพรรคการเมือง
เมื่อมีการเตือนภัยครั้งต่อมา ด็อกเตอร์สยามรู้ตัวดีว่าเขาคือตัวแปรสำคัญของความน่าเชื่อถือและอนาคตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีไตรภพ และไตรภพ ก็ต้องเลือกระหว่างลาภยศสรรเสริญกับชีวิตของประชาชนทั้งประเทศที่เขาเป็นผู้นำ
แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกสิ่งใดก็ตาม มหันตภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดก็เกิดขึ้น จากอ่าวไทยมุ่งหน้าถล่มใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างย่อยยับ
วิเคราะห์ภาพยนต์
วิเคราะห์บทละคร
ส่วนที่ชอบ
-เป็นภาพยนต์ที่มีข้อคิดให้กับคนดูและสอดแทรกแนวคิดต่างๆในการดำเนินเรื่อง เช่น พาเด็กไปเก็บขยะที่ริมชายหาด ยอมเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวม
-เป็นภาพยนต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น จากการกระทำของมนุษย์ และการเกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล
-เห็นประโยชน์ของส่วนรวมดีกว่าส่วนตน
ส่วนที่ไม่ชอบ
-เนื้อหานั้นมีใจตวามที่สลับซับซัอนมากเกินไป
-เนื้อหาเกี่ยวกับการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติจนสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงมันก็ดูดีอยู่
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ
-ภาพเลวร้ายของนักการเมืองไปจนถึงการใช้อำนาจแย่งชิงทรัพยากรจากชาวบ้านมันก็ดูดีอยู่
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ
- มีการนำเสนอภาพนักการเมืองกินถั่วดำมากยิ่งกว่าเนื้อหาการตัดงบประมาณหน่วยเตือนภัยเสียอีก
- ทัศนียภาพด้านหลังพระพุทธรูปที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทำออกมาแล้วดูแย่อย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากเอาไว้ใช้กับตอนจบ (ที่เป็นเรื่องของโชคสุดขีด) แล้วดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ใดอีก
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ
- มีการนำเสนอภาพนักการเมืองกินถั่วดำมากยิ่งกว่าเนื้อหาการตัดงบประมาณหน่วยเตือนภัยเสียอีก
- ทัศนียภาพด้านหลังพระพุทธรูปที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทำออกมาแล้วดูแย่อย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากเอาไว้ใช้กับตอนจบ (ที่เป็นเรื่องของโชคสุดขีด) แล้วดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ใดอีก
วิจารย์ตัวละคร
-ตัวละครนายกรัฐมนตรีในอุดมคติโครตๆ เพียงคนเดียว ที่ทำให้ทนดูหนังเรื่องนี้ได้ถึงตอนจบ
(ถึงแม้ Deep Impact เมื่อปี พ.ศ. 2541 จะทำฉากจบในทำนองเดียวกันนี้ได้ดีกว่ามากก็ตาม)
(ถึงแม้ Deep Impact เมื่อปี พ.ศ. 2541 จะทำฉากจบในทำนองเดียวกันนี้ได้ดีกว่ามากก็ตาม)
-ตัวละครที่เป็นดร.เป็นผู้ที่มีความเสียสละมาก จะเห็นได้จากการลงไปปฏิบัติในห้อง lab ใต้ท้องทะเล
วิจารย์ภาษาในการแสดง
- มีการนำเอาภาษาถิ่น (ภาษาถิ่นภาคใต้)มาร่วมประกอบในการแสดงทำให้เรื่องน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- มีบทสนทนา ที่เหมือนกับท่องอาขยาน ดูไม่เป็นธรรมชาติ การแสดง ที่ไม่เข้ากันอย่างสิ้นเชิง
คำพูดเท่ๆ ที่สักแต่ยัดหรืออยากจะพูดขึ้นมา โดยไม่สนว่ามันจะเข้ากับอารมณ์ตอนนั้นหรือไม่
คำพูดเท่ๆ ที่สักแต่ยัดหรืออยากจะพูดขึ้นมา โดยไม่สนว่ามันจะเข้ากับอารมณ์ตอนนั้นหรือไม่
-มีการใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติมากเกินไป และใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ เช่น มึง กู
วิจารย์ฉากและอุปกรณ์ในการแสดง
-ชมเชยเรื่องการลงทุนเช่าคอปเตอร์ ในการประกอบการแสดง ว่าใช้คอปเตอร์จริง
-ชมเชยว่ามีการนำภาพเหตุการจริงมาประกอบในการดำเนินเรื่อง จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนดูได้มาก
-ศูนย์วิจัยใต้น้ำ งบ 60 ล้าน มันดูแปลกๆ มันคล้ายกับสร้างจากแท็งน้ำมันเก่าๆ มันดูไม่สมจริงคับ
-ความสูงของคลื่น = ที่หาดสูงกว่าพระพุทธรูปยักษ์ แต่มาถึงกรุงเทพฯ เหมือนเอาน้ำใส่ถังมาสาดกระจกหน้ารถ
-ในความจริงแล้วการเคลื่อนตัวของคลื่นนั้นมีการคลื่นตัวที่เร็วมาก มีอัตราการเคลื่อนตัวเร็วกว่าความเร็วรถ แต่ทำไมรถเด็กนักเรียนไม่เป็นอะไร ทำไมไม่โดนน้ำชัด (งงๆ)
-ศูนย์วิจัยใต้น้ำ งบ 60 ล้าน มันดูแปลกๆ มันคล้ายกับสร้างจากแท็งน้ำมันเก่าๆ มันดูไม่สมจริงคับ
-ความสูงของคลื่น = ที่หาดสูงกว่าพระพุทธรูปยักษ์ แต่มาถึงกรุงเทพฯ เหมือนเอาน้ำใส่ถังมาสาดกระจกหน้ารถ
-ในความจริงแล้วการเคลื่อนตัวของคลื่นนั้นมีการคลื่นตัวที่เร็วมาก มีอัตราการเคลื่อนตัวเร็วกว่าความเร็วรถ แต่ทำไมรถเด็กนักเรียนไม่เป็นอะไร ทำไมไม่โดนน้ำชัด (งงๆ)
-ในความจริงแล้วเมื่อเกิดคลื่นยักษ์ถล่มแล้ว อัตราการสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมผู้นำประเทศไม่เสียชีวิตขณะคลื่นยักษ์ได้ชัดกระหน่ำ หลังจากที่ช่วยนักเรียนเสร็จ
วิจารย์เทคนิคในการประกอบ
-ตอนที่คลื่นยักษ์ถล่มเมืองกรุงเทพ เป็นแอนชั่นที่ที่ไม่เเนบเนียน คลื่นนั้นมีความสูงเกินและมันคล้ายกับไม่สมกับธรรมชาติ
- แผ่นดินไหว = เทคนิค "เขย่ากล้อง" ทำให้ไม่สมจริง เท่าที่ควรคับ ดูแล้วรู้สึกว่าภาพนั้นไม่นิ่งพอ
-CG = เบลอๆ ดูไม่รู้ว่าเป็นน้ำทะเล หรือว่าอะไรกันแน่ มันทำให้ปวดหัวเมื่อมองดู อย่าถามว่าเนียนหรือเปล่า ถ้าถามผมว่าหนังเรื่องนี้ให้คุณค่ากับคนดูหรือไม่ ผมตอบเลยว่าให้ขึ้นอยู่กับคนดูว่าคนดูนั้นจะคิดอคติกับหนังต่างประเทศหรือป่าว เพราะว่าหนังต่างประเทศนั้นเป็นหนังที่มีแอนนิเมชั่นที่เนียนมาก เมื่อเทียบกับผีมือของคนไทยนั้น ไม่สามารถเทียบกับต่างชาติได้เลย สำหรับในด้านเทคนิคเท่านั้น
คำพูดที่ชอบในภาพยนต์
"นายก" เราอาศัยอยู่บนโลกใบนี้มานานนับล้านปี แต่พวกเราเนี่ยกลับรู้จักโลกใบนี้น้อยเกินไป น้อยกว่าดาวอังคารด้วยซ้ำ บางทีปัญหาจะอาจเกิดขึ้นกับผม จากคุณ หรือใครบางคนที่ให้ความสำคัญกับโลกใบนี้น้อยเกินไป
"นายก"ผมยอมสูญเสียทุกอย่าง เพื่อแลกกับชีวิตของประชาชนให้ได้มากที่สุด
"นายก"ผมเป็นผู้นำประเทศนะ ผมต้องการอยู่กับเขาในขณะที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ
"ซินดี้"ท่านค่ะ อย่าปล่อยให้ประเทศชาติ และประชาชนได้รับเคราะห์กรรมอย่างนี้อีกนะค่ะ
"นายก" บทเรียนครั้งนี้ได้สอนผมและได้บอกกับมวลมนุษยชาติมากเกินพอ
สรุป
ภาพยนต์เรื่องนี้ในความจริงแล้วเป็นภาพยนต์ที่ให้ความรู้มากแก่บุคคลทั่วไปเป็นอย่างมาก สอดแทรกความรุ้ และแนวคิดต่างๆได้เป็นอย่างดี แต่มีปัญหาในด้านทางเทคนิคในการสร้างผลงานการแสดงเท่านั้นเอง จึงเป็นผลทำให้บุคลทั่วไป ว่ากล่าวได้ว่าเป็นหนังที่ไม่แนบเนียน แต่เมื่อเทียบกับภาพยนต์ของต่างประเทศนั้น ภาพยนต์ของประเทศไทยนั้นจะสู้ไม่ได้ในด้านเทคนิคจริงๆ(ซึ่งต่างประเทศมีความทันสมัยทางเทคโนโลยีในการสร้างภาพยนต์ดีกว่า จึงทำให้ได้ภาพยนต์นั้นมีความสมจริง น่าเชื่อถึอ ทำให้ผู้ชมนั้นมีความรู้สึกร่วมไปกับภาพยนต์ เสมือนว่าอยู่ในเหตุการจริง)
แถมเพลง
แถมเพลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น